
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรง และสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคที่ทำให้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองลงมาจากโรคมะเร็ง
หากรู้ตัวว่าเป็นแล้วต้องมีการดูแลตนเองเป็นอย่างดี เพื่อยืดอายุของคนไข้ให้ยาวนานขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หากกระทำได้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถต่อเวลาชีวิตออกไปได้
👉อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
✅เจ็บแน่นหน้าอก
✅เหนื่อยง่ายขณะออกแรง
✅หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและเรื้อรัง
✅ความดันโลหิตต่ำเฉียบพลัน
✅หมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น
👉ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
👉ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
👉อายุที่มากขึ้นมีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้น
👉เพศชายเป็นได้มากกว่า😱เพศหญิง
👉👉หากในวัยหมดประจำเดือนเพศหญิงมีโอกาสเป็นเท่ากับเพศชาย
👉ประวัติครอบครัว
👉ปัจจัยที่ควบคุมได้
👉สูบบุหรี่
👉ไขมันในเลือดสูง
👉ความดันโลหิตสูง
👉👉ไม่ออกกำลังกาย
👉น้ำหนักมากหรืออ้วน
👉โรคเบาหวาน
❎กินอาหารไม่มีประโยชน์
❎ความเครียด
👉👉ผลกระทบหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้หรือรู้ตัวช้า ทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมตามเวลา
เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีปัจจัยเสี่ยง ไขมันจะเริ่มเกาะที่ผนังหลอดเลือดด้านใน ทำให้หลอดเลือดตีบหรือแคบลง ส่งผลต่อเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการปริแตกของหลอดเลือด เกล็ดเลือดหลุดเข้าไปอุดตันทางเดินของหลอดเลือด และเมื่อมีการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจเกินร้อยละ 50 คนไข้จะเริ่มมีอาการแสดง
👏👏💊การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
✅หากหลอดเลือดตีบตันเพียงบางส่วน รักษาด้วยยา💊
✅หากหลอดเลือดตันมาก รักษาด้วยการทำบอลลูนหัวใจ💖
✅หากไม่สามารถทำบอลลูนหัวใจได้ รักษาด้วยการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ
💪การดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
💪หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง (ควบคุมอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม ลดน้ำหนักตัว)
💪กินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
💪กินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
💪กินอาหารแต่พออิ่ม หลังกินเสร็จพัก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะหลังกินอาหารเลือดจะไปเลี้ยงที่ท้อง หากไม่พักจะทำให้เจ็บหน้าอก
💪💪ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลังการรักษาแพทย์จะให้คนไข้ฝึกเดิน จากนั้นควรเพิ่มระยะเวลาทีละน้อย
👉ทำจิตใจให้สงบ หาโอกาสพักผ่อน ลดความเครียด
🚭ไม่สูบบุหรี่
🚻การดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
🎂หลีกเลี่ยงอาหารหวาน อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว และอาหารเค็มจัด
🌾กินอาหารที่มีไขมันน้อย
☀ออกกำลังกายเป็นประจำ
✋หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
🙀นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด
🙅ควบคุมน้ำหนัก
🔍ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
cr: ข้อมูลดีๆจาก รพ.รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล